ทุกปีจะมีหนังคาวบอยออกมาให้เราได้ชมกัน ซึ่งหนังคาวบอยยุคหลังพยายามฉีกกรอบเดิมๆ ขายความแปลกใหม่อย่าง Django Unchained ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง ตลกนำแบบ A Million Ways to Die in the West หรือซับซ้อนอย่าง The Hateful Eight เป็นต้น ซึ่งก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว แต่กับ The Magnificent Seven หรือในชื่อไทยว่า 7 สิงห์แดนเสือ เลือกที่จะเล่าเรื่องตรงไปตรงมาแบบหนังคลาสสิกยุคเก่า และมุ่งตอบสนองคนดูในด้านความบันเทิงจากฉากแอ็กชั่นและซีนเท่ๆ มากมาย
The Magnificent Seven เวอร์ชั่นปี 2016 เล่าเรื่องราวของนักล่าฆ่าหัว Sam Chisolm (Denzel Washington) ที่ถูกสาวสวยหัวใจแกร่ง Emma Cullen (Haley Bennett) ว่าจ้างให้ไปจัดการกับ Bartholomew Bogue (Peter Sarsgaard) นักธุรกิจอันธพาลที่ยึดครองเมือง Rose Creek ของเธอ เพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์จากเหมืองทองคำ ด้วยอำนาจของเงินทำให้ Bogue มีลูกสมุนมากมาย Sam Chisolm จึงต้องรวบรวมผู้กล้าฝีมือพระกาฬรวม 7 คน เข้าต่อสู้ทวงถามความยุติธรรมและความสงบสุขใหักับชาวเมือง Rose Creek
หนังดำเนินเรื่องในสไตล์หนังคลาสสิกที่ตรงไปตรงมา ตัวละครขาวดำชัดเจน เน้นแอ็กชั่นนำ แต่ก็เบรกความรุนแรงด้วยมุกตลกคมคาย ทำให้ภาพรวมของ The Magnificent Seven เป็นหนังดูง่ายไม่ซับซ้อน
ผู้กำกับ Antoine Fuqua มีผลงานหนังแอ็กชั่นที่หลากหลายอย่าง Shooter, Olympus Has Fallen, The Equalizer ที่หนังแต่ละเรื่องถือว่าทำออกมาได้น่าพอใจ จนมาถึงงานล่าสุด The Magnificent Seven ก็ทำได้ดีไม่แพ้กับผลงานที่ผ่านมา จนอาจกล่าวได้ว่าผู้กำกับ Antoine Fuqua เป็นอีกหนึ่งผู้กำกับแอ็กชั่นยอดฝีมือของยุคนี้ไปแล้ว
Marvel เก่งในการทำหนังเปิดฮีโร่ตัวใหม่ ราวกับมี "สูตรสำเร็จในการสร้างหนังซุปเปอร์ฮีโร่" กับฮีโร่จอมเวทย์อย่าง Doctor Strange สูตรดังกล่าวก็ยังคงได้ผลดี ที่ทำให้เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ดูง่าย และตอบสนองความบันเทิงได้ครบถ้วน
Doctor Strange อาจเป็นชื่อซุปเปอร์ฮีโร่ที่ไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยนัก แต่ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ทั้งนักแสดงนำ ธีมเรื่องเกี่ยวกับเวทย์มนต์ ชื่อชั้นของ Marvel อีกทั้งหนังตัวอย่างที่ออกมาโชว์งานอลังการเทคนิคพิเศษ ก็ทำให้หนังซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้น่าดูยิ่งขึ้น
"เวทมนตร์" คำนี้เข้ามาขยายจักรวาลหนัง Marvel
Doctor Strange เล่าเรื่องราวของ Stephen Strange ศัลยแพทย์ประสาทชื่อดัง ที่เป็นเซียนเพลงตัวยง ชอบเล่นมุกฝืด และมีนิสัยรวย! ..แต่อุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้มือทั้งสองข้างของเขาไม่อาจรักษาคนไข้ได้อีก เขาพยายามรักษาด้วยวิธีการแบบตะวันตกก็ยังไม่หาย จึงเดินทางสู่ตะวันออกความหวังสุดท้ายที่คามาร์ทาจ ที่นั่นเขาได้พบกับ Ancient One อาจารย์ที่ทำให้เขาได้พบว่า โลกไม่ได้เป็นในแบบที่เขาเข้าใจ เขาได้เรียนการใช้เวทมนตร์ และรู้ว่าที่นี่คือศูนย์กลางในการต่อสู้กับศัตรูจากมิติอื่น ซึ่งเขาต้องตัดสินใจว่าจะต่อสู้เพื่อปกป้องโลกหรือกลับไปสู่ชีวิตที่เขาเคยมี
Doctor Strange จากหมอผู้ที่ "รักษาชีวิต" แต่ต้องมา "ทำลายชีวิต" เพื่อปกป้องโลก
Marvel มีสายตาอันร้ายกาจ ในการคัดเลือกผู้กำกับที่จะทำให้หนังซุปเปอร์ฮีโร่ของเขา ใครจะคิดว่าผู้กำกับ Scott Derrickson ที่มีเครดิตจากหนังสยองขวัญอย่าง Sinister, Deliver Us from Evil จะทำ Doctor Strange ออกมาได้สนุกลงตัวขนาดนี้ ครบถ้วนทั้งฉากแอ็กชั่น มุกตลก และเทคนิคพิเศษสุดอลังการ
VFX ในเรื่องนี้ ทำออกมาได้ชวนตะลึง
ซึ่ง VFX หรือเทคนิคพิเศษด้านภาพในเรื่องนี้ ทำออกมาได้ชวนตื่นตะลึงและให้ประสบการณ์ใหม่ในการดูหนังที่ใช้เทคนิคพิเศษแก่คนดู โดยหลักๆ มี 2 ฉากใหญ่ที่ห้ามกะพริบตา คือ หนึ่งคือฉากที่ Strange ถูก Ancient One ผลักวิญญาณออกไปจากร่าง เพื่อให้ล่องลอยไปสู่มิติภพภูมิต่างๆ ฉากนี้จัดเป็นซีนยอดเยี่ยมด้านเทคนิคพิเศษประจำปีนี้ได้เลย อีกฉากก็คือ ฉากแอ็กชั่นทะลุมิติในเมือง ซึ่งใครชอบฉากตึกในเมืองบิดเบี้ยวแบบหนัง Inception ใน Doctor Strange มีเหมือนกัน แถมเว่อร์วังอลังการย่ิงกว่าหลายเท่า ซึ่งแนะนำให้ดูบนจอ IMAX 3D เพื่ออรรถรสและความตื่นตาตื่นใจกันแบบขั้นสุด
จากภาพยนตร์เรื่องนี้ปี 1986 ทำให้ Tom Cruise ขึ้นแท่นเป็นดาราระดับโลกทันที ทำให้เขาได้รับรางวัลมากมาย Top Gun : Maverick โทนเรื่องนี้ตั้งอยู่ในยุคปัจจุบัน แต่มีกลิ่นให้ความความรู้สึก คิดถึงโปรเจ็กต์การสร้างภาพยนตร์ในยุค ’80s ซึ่งน่าติดตามมาก การขับขี่อย่างเร้าใจของนักบินขับไล่ ที่มาพร้อมภาพอันคมชัด ในเดียวกันพวกเขาก็ต้องจัดการกับเทคโนโลยีเสียงให้มีความสมจริง และทุ้มเข้าไปในโสตประสาทมากยิ่งขึ้น
Tom Cruise ปรากฏตัวครั้งแรกที่งาน Comic-Con ในปี 2013 เพื่อโปรโมทภาพยนตร์เรื่อง Edge of Tomorrow พร้อมกับ Emily Blunt และเขาก็ยังไม่ได้กลับมางานนี้อีกจนกระทั่งมาประกาศข่าวดีใน Top Gun : Maverick
แฟนหนังต่างฮือฮา
ทำเอาแฟนภาพยนตร์ตาลุกวาวกันสุดๆ เมื่อได้ยลภาพยนตร์สุดเท่ ชื่อดังระดับตำนาน ที่กำลังจะกลับมาสานต่ออีกครั้งอย่าง Top Gun : Maverick ที่ได้มีการปล่อยตัวอย่างออกมาให้ได้เห็นกันแล้ว แน่นอนจะขาดหัวหอกของเรื่องไปได้อย่างไร เพราะยังคงได้ Tom Cruise กลับมารับบทบาทเดิม เรื่องวัยไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเขายังคงฟิตแอนด์เฟิร์ม และใบหน้ายังคงความอ่อนเยาว์ แทบไม่ต่างอะไรกับตอนที่เขารับบท Top Gun ภาคแรกเลย ภาคต่อของเรื่องราวนี้ห่างจากภาคแรกถึง 33 ปีด้วยกัน ยุคสมัยเปลี่ยนไปแต่ยังคงกลิ่นอายอันชวนคิดถึง อีกทั้งภาพจำในอดีตต่างๆ จะทำให้คุณคิดถึงเรื่องราวในอดีตอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงกองทัพอากาศสหรัฐฯ ภาคแรก ในปี 1986 ตลอดจนแว่นกันแดด Ray Ban รุ่น Aviator ที่ขายดีอย่างล้นหลาม
Top Gun ปี 1986
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นดราม่าอเมริกัน กำกับโดย Tony Scott ภาพยนตร์เรื่องนี้เขียน โดย Jim Cash และ Jack Epps Jr. ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากบทความเรื่อง ‘Top Guns’ ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร California นอกจากการฉายประกายดาวของ Tom Cruise ยังเป็นการเปิดตัวของนักแสดงหญิง Adrian Pasdar อีกด้วย
Top Gun เปิดตัวเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1986 เมื่อได้รับการปล่อยตัว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์จำนวนมาก หลายคนๆ ชื่นชมฉากแอ็คชั่นเอฟเฟกต์ที่ล้ำสมัย ฉากผาดโผนทางอากาศ และแน่นอนมีการชมการแสดงของ Tom Cruise อีกด้วย เป็นเวลา 4 สัปดาห์หลังจากได้รับการปล่อยตัว จำนวนโรงภาพยนตร์ที่เปิดแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มขึ้นถึง 45% จนกระทั่งได้รับความนิยมอย่างมากในเชิงพาณิชย์ สร้างรายรับไปถึง 356 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับงบประมาณการผลิตเพียง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ เรียกได้ว่าสร้างกำไรไปอย่างล้นหลาม และ TOP GUN ยังคงได้รับความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และได้รับการเปิดตัวในระบบ IMAX 3D อีกครั้ง ในปี 2013 นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัลออสการ์สาขาเพลงต้นฉบับยอดเยี่ยมสำหรับเพลง Take My Breath Away ทุกๆ องค์ประกอบของเรื่องนี้กลายมาเป็นตำนานเกือบทั้งหมด
อีกหนึ่งปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลย เพลงประกอบภาพยนตร์ต้องยอมรับกันตามตรงว่า เพลงประกอบจากภาคแรกเป็นตัวส่งให้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ดังมาจนถึงทุกวันนี้ หลายคนยังร้องเพลง Let it go กันได้อยู่เลย(พร้อมทำท่าประกอบด้วย) ต้องมาดูกันว่า เพลงประกอบของภาคนี้ที่ชื่อว่า Into the Unknown จะทำออกมาได้ดีแค่ไหนว่าแล้ว ปลายปีนี้ประมาณเดือน 11 หนังจะเข้าบอกเลยว่าสาวกเตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกับเธอกันได้เลยในโรง
Movie Plus นั้นเป็นแอพวิีดีโอสตรีมมิงพิเศษเฉพาะในทีวีของ LG โดยมีแพ็กเกจบุฟเฟต์หนังให้ดูรายเดือน 99 บาท รายสามเดือน 270 บาทและรายหกเดือน 480 บาท แถมยังมีหนังให้เช่าซึ่งราคาก็จะขึ้นอยู่กับความใหม่ของตัวหนังเอง
Love letter เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกอันดับ 1 ในใจใครหลายคน แม้จะออกฉายตั้งแต่ปี 1995 แต่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ ตามร้านขายซีดี-ดีวีดี ในไทยเองยังคงมีแผ่นเรื่องนี้ขาย เพราะ Love letter คือหนังรักในตำนานสุดคลาสสิกของประเทศญี่ปุ่น ผลงานของยอดผู้กำกับ ชุนจิ อิวาอิ โดยหนังเรื่องสร้างปรากฏการณ์ได้รับทั้งคำชมจากนักวิจารณ์ รายได้หลายล้านเยน และรางวัลในเวทีต่างๆ พร้อมทั้งแจ้งเกิดให้ ชุนจิ อิวาอิ กลายเป็นเจ้าพ่อหนังรักเหงาๆแห่งเอเชีย
Love letter มีชื่อไทยว่า ถามรักจากสายลม เล่าถึงเรื่องราวของ ฮิโรโกะ หญิงสาวที่เพิ่งสูญเสียคู่หมั้นไป ด้วยความคิดถึง เธอจึงลองเขียนจดหมายไปถึงคู่หมั้นที่ตายไปเล่นๆ แต่ปรากฏว่า มีจดหมายตอบกลับมาเป็น ชื่อเดียวกันกับคู่หมั้นของเธอ ทำให้เธออยากรู้ความจริงว่า จดหมายฉบับนี้มาได้อย่างไร เธอจึงออกไปตามหาคนที่เขียนจดหมายฉบับนี้ และพบกับเรื่องราวในอดีตของคนที่เธอรัก รวมถึงได้ทำให้ผู้หญิงอีกคนได้รู้ความรู้สึกที่ผ่านมาเนิ่นนาน
นักแสดง : Miho Nakayama, Etsushi Toyokawa, Bunjaku Han
ผู้กำกับ : Shunji Iwai
2. Be with you – 2004
Be with you มีชื่อไทยว่า ปาฏิหาริย์ 6 สัปดาห์ เปลี่ยนฉันให้รักเธอ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ โนบุฮิโร่ โดอิ เพราะหลังจากกำกับซีรีส์มาหลายเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของเขาอย่าง Be with you กลับประสบความสำเร็จ อย่างล้นหลาม สร้างความประทับใจให้กับคอหนังทั่วทวีปเอเชีย เป็นหนังรักที่คนดูแทบทุกคนต้องเสียนํ้าตา และที่สำคัญคู่พระนางในหนังอย่าง ยูโกะ ทาเคอุจิ กับ ชิโดะ นากามูระ ก็พบรักกันในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ และตกลงแต่งงานกันในที่สุด
Hana and Alice สองหัวใจหนึ่งความทรงจํา เป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจดจำของ ชุนจิ อิวาอิ รวมถึงยังแจ้งเกิดให้กับ แอน ซึสึกิ และ ยู อาโออิ ให้กลายเป็นไอดอลสาวของประเทศญี่ปุ่นในยุคนั้น เพราะทั้งคู่ถ่ายทอดความน่ารักสดใสของตัวละครออกมาได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่าพล็อตของหนังจะเป็นเรื่องราวรักสามเส้าของเพื่อนรักก็ตาม โดยล่าสุดใในปี 2015 ชุนจิ อิวาอิ ได้ตัดสินใจสร้างหนังอนิเมชั่น The Case of Hana & Alice บอกเล่าเรื่องราวก่อนหน้าภาพยนตร์ Hana and Alice และได้ แอน ซึสึกิ กับ ยู อาโออิ มาพากย์เสียงให้ตัวละครของพวกเธออีกครั้ง
Hana and Alice เป็นเรื่องราวของ ฮานะ กับ อลิส สองสาวเพื่อนรักวัยมัธยมที่สนิทกันมาก อยู่มาวันหนึ่ง ฮานะก็บอกกับอลิสว่า แอบไปหลงรักชายหนุ่มคนหนึ่ง และเธอก็ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่ใกล้กับเขา แต่อยู่มาวันหนึ่งก็มีอุบัติเหตุ โดยที่ฮานะแอบมองอยู่ใกล้ๆ เธอจึงรีบไปหาเขา แต่เขายังคงมึนงงอยู่ ฮานะจึงโกหกไปว่าเป็นแฟนกับเขา และโกหกอีกว่าเขาความจำหายไป ต่อมาฮานะก็โกหกไปอีกว่า อลิสเป็นแฟนเก่ากับเขา
นักแสดง : Anne Suzuki, Yu Aoi, Tomohiro Kaku
ผู้กำกับ : Shunji Iwai
4. Crying Out Love in the Center of the World – 2004
Crying Out Love in the Center of the World พร่ำหัวใจ เพรียกหารักที่กลางโลก เป็นเรื่องราวจากนิยายสุดฮิตอย่าง อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก ของ เคียวอิจิ คาตายามะ ที่ถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์และภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูมากที่สุดเป็นหนังเวอร์ชั่นปี 2004 ของผู้กำกับ อิซาโอะ ยูกิซาดะ ที่ได้ ทาคาโอะ โอซาวะ , โค ชิบาซากิ และ มาซามิ นางาซาวะ มาแสดงนำ
Crying Out Love in the Center of the World คือเรื่องราวของ ซากุทาโร่ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานในอีกไม่กี่วันกับ ริทซึโกะ แฟนสาวที่คบกันมาหลายปี แต่เธอกลับหายตัวไปทำให้เขาต้องตามหาเธอจนไปถึงเมืองชิโกกุ ในทันทีที่รู้ว่าเธออยู่ที่นั่นการกลับมายังชิโกกุคราวนี้ ทำให้หน้าต่างแห่งอดีตของเขาถูกเปิดออกอีกครั้ง เรื่องราวความรักในอดีตของเขากับ อากิ เพื่อนสาวร่วมชั้นเรียนที่ยากจะลืมเลือน ความสุขครั้งนั้นกลับกลายเป็นความเศร้า ที่เขาเองก็ไม่เคยนึกถึงมาก่อน ด้วยโรคร้ายที่เกิดขึ้นกับอากิ ทำให้ทั้งคู่ต้องจากกันตลอดกาล ซากุทาโร่กลับมา ณ ที่เดิมอีกครั้ง เขาพบว่าความทรงจำในอดีต มิเคยลบเลือนไปไหน และกำลังหมุนย้อนคืนกลับมาพร้อมกับสิ่งสำคัญที่สูญหายไป
นักแสดง : Takao Ohsawa, Ko Shibasaki, Masami Nagasawa
ผู้กำกับ : Isao Yukisada
5. Midnight Sun – 2006
Midnight Sun มีชื่อไทยว่า 24 ชั่วโมงขอรักเธอทุกวัน เป็นผลงานการกำกับของ โนริฮิโระ โคอิซึมิ จาก Wrestling with a Memory และ Flowers โดยได้ ยุอิ โยชิโอกะ นักร้อง สาวสวยที่กำลังโด่งดังในญี่ปุ่นยุคนั้น มาแสดงนำร่วมกับ ทาคาชิ ซึคาโมโต้ ความโดดเด่นของหนังนอกจากเนื้อหาที่กินใจแล้ว เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ร้องโดย ยุอิ นางเอก ต้องบอกว่าเพราะติดหูทุกเพลง โดยเฉพาะเพลง Goodbye Days ซึ่งล่าสุดฮอลลีวู้ดได้ซื้อลิขสิทธิ์หนังเรื่องนี้ไปรีเมค ใช้ชื่อเดียวกัน และมีคิวเข้าฉายในปีนี้
เรื่องย่อ Sky Of Love เล่าเรื่องราวความรักของ มิกะ นักเรียนชั้นมัธยมปลายปีหนึ่งที่แอบหลงรักเพื่อนร่วมชั้นเรียน ฮิโรกิ จากเด็กสาวธรรมดาที่ไม่เคยมีความรักกลับกลายเป็นความรักที่สุดแสนจะลึกซึ้ง แต่แล้วฮิโรกิกลับทิ้งเธอไปอย่างไม่มีเหตุผล มิกะเสียใจมากและความรักครั้งนั้นกลายเป็นบาดแผลฝังลึกจนยากที่จะเปิดใจรับความรักครั้งใหม่ แต่เมื่อเธอได้เจอกับ ยู ชายหนุ่มที่เพียรทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เห็นเธอมีความสุข มิกะก็เริ่มใจอ่อนจนยอมคบกับเขา แต่แล้วในคืนวันคริสต์มาสอีฟแรกที่ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน มิกะก็ได้รู้ถึงเหตุผลที่ฮิโรกิ ต้องทิ้งเธอไป
นักแสดง : Yui Aragaki, Haruma Miura, Yuko Asano
ผู้กำกับ : Natsuki Imai
8. I Give My First Love To You – 2009
I Give My First Love To You เพราะหัวใจบอกรักได้ครั้งเดียว คือภาพยนตร์รักที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนมังงะชื่อเดียวกันของ อ.โคโตมิ อาโอกิ กำกับโดย เจ้าของผลงาน Heavenly Forest นำแสดงโดย มาโอะ อิโนะอุเอะ และ มาซากิ โอคาดะ หนังสร้างปรากฏการณ์เรียกนํ้าตาชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ ครองแชมป์อันดับ 1 บนตารางบ็อกซ์ออฟฟิศหลายสัปดาห์ และกวาดรายได้ไปกว่า 281 ล้านเยน
I Give My First Love To You เรื่องราว ของมายุและทาคุมะ เริ่มต้นเมื่อทั้งสอง อายุเพียง 8 ปี คุณพ่อของมายุ เป็นนายแพทย์ ทำให้พบกับมายุในโรงพยาบาล มายุและทาคุมะเริ่มสนิทกัน แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็พบว่า ทาคุมะอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึง 20ปี เนื่องจากหัวใจทำงานไม่ปกติ มาตั้งแต่เกิด ทำให้ทั้งสองตกลงสัญญากันว่า จะแต่งงานกันเมื่อโตขึ้น จากวันนั้นคำสัญญา กลายเป็นความผูกพัน ทำให้เขาอยู่เคียงข้างกัน แต่เพราะความรักที่ใกล้หมดอายุ ทาคุมะเริ่มคิดว่าหากอยู่ใกล้เขา มายุต้องร้องไห้ทุกวัน แล้วเมื่อถึงวันที่เขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เธอจะมีความสุขได้อย่างใร ในขณะเดียวกัน โค หนุ่มที่แอบรักมายุ เข้ามาพัวพันกับชีวิตของเขาทั้งสอง อีกทั้งทาคุมะยังได้รู่จักกับ เทรุ ผู้หญิงที่ป่วยเหมือนเค้า ความรู้สึกขอมายุ และทาคุมะ เริ่มสั่นคลอน ก่อให้เกิดคำถามคาใจที่ว่า แท้จริงแล้ว ความรักมีวันหมดอายุหรือไม่